สร้างรากฐาน (Employee Value Proposition) ให้ชัดก่อนสร้าง “ภาพลักษณ์นายจ้าง” ที่คนอยากร่วมงาน

ถอดรหัสความต่างระหว่าง Employee Value Proposition VS Employer Branding VS Employee Experience

พาถอดรหัสความแตกต่างระหว่าง Employee Value Proposition VS Employer Branding VS Employee Experience

หลายองค์กรวันนี้มุ่ง “สร้างภาพลักษณ์” ให้คนอยากมาร่วมงาน จัดแคมเปญ Employer Branding ดูดีบนโซเชียล มีคลิปเล่าเรื่องพนักงานสุดอบอุ่น มีสโลแกนเท่ ๆ ว่า “เราเชื่อในพลังของคนรุ่นใหม่”


แต่คำถามคือ… “คุณได้สร้างรากฐานของ Employee Value Proposition (EVP)” ที่แท้จริงไว้แล้วหรือยัง?

เพราะการสร้างแบรนด์นายจ้าง (Employer Branding) ที่ไม่มีรากฐานจาก EVP เปรียบเหมือนการ “แต่งบ้านโดยไม่ลงเสาเข็ม” ภายนอกอาจดูดี แต่ข้างในยังไม่มั่นคง
บทความนี้จะพาคุณ “ถอดรหัส” ความแตกต่างและความสัมพันธ์ระหว่าง Employee Value Proposition (EVP), Employer Branding, และ Employee Experience เพื่อให้เข้าใจว่าควรเริ่มจากอะไร ก่อนจะลงมือสร้าง “คุณค่าที่มอบให้พนักงาน” อย่างยั่งยืน

ทำไมองค์กรควรเริ่มจาก “Employee Value Proposition” ก่อนสร้างภาพลักษณ์นายจ้าง

Employee Value Proposition หรือ EVP คือ “คำสัญญา” ที่องค์กรให้กับพนักงาน ว่าการมาทำงานที่นี่ เขาจะได้รับคุณค่าอะไรตอบแทนบ้าง ทั้งในมิติ Functional, Emotional, Growth และ Purpose
หรือพูดให้เข้าใจง่ายคือ “สิ่งที่คนได้” แลกกับ “สิ่งที่เขาให้” แก่องค์กร

ในบทความ EVP คืออะไร ความสำคัญและตัวอย่างจริงจากองค์กรชั้นนำ
ได้อธิบายไว้อย่างชัดว่า EVP คือ “หัวใจ” ที่เชื่อมพนักงานกับองค์กรอย่างแท้จริง เมื่อเข้าใจรากฐานนี้ การสร้างแบรนด์ภายนอกหรือการสื่อสารภายในก็จะมี “ทิศทางเดียวกัน”

องค์กรที่เริ่มจาก EVP ชัดเจนจะได้ประโยชน์ 3 อย่างสำคัญ:

  • สื่อสารกับตลาดแรงงานได้ “ตรงจริต” คนที่องค์กรต้องการ
  • สร้างความผูกพันของคนในองค์กร เพราะ “สิ่งที่สัญญา” กับ “สิ่งที่ให้จริง” ตรงกัน
  • ลดอัตราการลาออก เพราะคนรู้สึกว่า “คุณค่า” ที่ได้รับคุ้มค่ากับการอยู่

ความแตกต่างระหว่าง Employee Value Proposition, Employer Branding และ Employee Experience

  • EVP (Employee Value Proposition)

คือ สิ่งที่องค์กรให้คำมั่นว่าจะมอบให้กับพนักงาน ทั้งในมิติค่าตอบแทน การเติบโต ความภาคภูมิใจ และคุณค่าเชิงวัฒนธรรม

คำถามที่องค์กรควรถามตนเอง คือ “เราอยากให้คนจำองค์กรเราว่าอย่างไร?”

  • Employer Branding

คือ ภาพลักษณ์ที่องค์กรสื่อออกไปให้ตลาดแรงงานรับรู้ผ่านการสื่อสาร การตลาด และประสบการณ์จริง

คำถามที่องค์กรควรถามตนเอง คือ “สิ่งที่เราสื่อออกไป สอดคล้องกับสิ่งที่คนข้างในรู้สึกหรือไม่?”

  • Employee Experience

คือ ประสบการณ์ทั้งหมดของพนักงานตั้งแต่สมัครงาน วันแรกทำงาน ไปจนถึงวันสุดท้าย

คำถามที่องค์กรควรถามตนเอง คือ “ทุก Touchpoint ของคนในองค์กร สะท้อน EVP จริงหรือเปล่า?”

👉 ดูเพิ่มเติมได้ในบทความ EVP ยุคใหม่: อะไรคือปัจจัยสร้างแรงดึงดูดในองค์กรยุค Hybrid Work

ถ้า “ข้างในไม่จริง” ภาพลักษณ์ภายนอก ก็ไม่ยั่งยืน

หลายองค์กรเริ่มจากการ “ทำแคมเปญ” เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัย แต่กลับพบว่าผลลัพธ์ไม่ยั่งยืน เพราะสิ่งที่พนักงาน “รู้สึก” ไม่ตรงกับสิ่งที่องค์กร “พูดออกไป”
ตัวอย่างเช่น

  • โฆษณาเล่าเรื่อง Work-Life Balance แต่พนักงานจริงกลับโอทีจนดึกทุกวัน
  • พูดเรื่องโอกาสเติบโต แต่ไม่มี Career Path ที่ชัดเจน
  • สื่อสารเรื่องความเท่าเทียม แต่ระบบภายในกลับไม่เปิดโอกาสเท่าเทียมจริง

นี่คือเหตุผลที่ทำให้ Employer Branding ล้มเหลว แม้งบโฆษณาจะมากเพียงใด
Employee Value Proposition จึงควรเริ่มจาก “การฟังเสียงพนักงาน” ก่อนสื่อสารออกไป เพื่อให้ EVP ของพวกเขา “สะท้อนของจริง” ตามสิ่งที่องค์กรให้คำมั่นและสามารถทำได้

วิธีสร้างรากฐาน Employee Value Proposition (EVP) ที่แท้จริง

1. ฟังเสียงคนในองค์กร (Listen) – ทำ Employee Insight Survey หรือ Focus Group เพื่อเข้าใจว่าคนรู้สึกอย่างไรกับการทำงานที่นี่

2. วิเคราะห์จุดแข็งเฉพาะตัวขององค์กร (Identify Core Value) – เช่น ความมั่นคง, โอกาสเติบโต, นวัตกรรม, หรือความภูมิใจในแบรนด์

3. ออกแบบ EVP Statement ที่ชัดและจริง (Craft & Validate) – เขียนเป็นข้อความที่จับต้องได้ ไม่ใช่คำสวยหรู

4. เชื่อมโยงสู่ Employer Branding และ Employee Experience (Integrate) – ใช้ EVP เป็นแกนกลางของทุกการสื่อสาร ทั้งในและนอกองค์กร

องค์กรที่ต้องการแนวทางเชิงลึกสามารถดูแนวทางได้ใน EVP Thai: ครังแรกที่ได้ฟัง เสียงจริงของคนไทย

นำ Employee Value Proposition (EVP) ไปต่อยอดสู่การออกแบบ Employee Experience

EVP จะไม่มีความหมาย ถ้าไม่ถูก “ทำให้เกิดขึ้นจริง” ในประสบการณ์ของพนักงาน
องค์กรชั้นนำจึงใช้ EVP เป็น “North Star” สำหรับการออกแบบเส้นทางการทำงานของพนักงาน เช่น

  • ใช้ EVP ด้าน “Growth” ออกแบบ Learning Journey และ Career Mobility
  • ใช้ EVP ด้าน “Purpose” เชื่อมโยงกับ CSR และเป้าหมายองค์กร
  • ใช้ EVP ด้าน “Belonging” พัฒนาโครงการ Internal Community

อ่านเพิ่มเติม: EVP กับความจริงภายในร่างองค์กร

คำถามที่องค์กรควรถามก่อนเริ่มทำ Employer Branding

1. เรารู้จัก EVP ของตัวเองดีพอหรือยัง?

2. EVP ของเราสะท้อนสิ่งที่พนักงานรู้สึกจริงหรือไม่?

3. Employee Experience ของเราสอดคล้องกับ EVP หรือยัง?

4. ผู้นำในองค์กรเข้าใจและสื่อสาร EVP อย่างเดียวกันไหม?

5. เรามีระบบวัดผลความสอดคล้องระหว่าง “สิ่งที่พูด” กับ “สิ่งที่คนภายนอกรับรู้” แล้วหรือยัง?

การสร้าง Employer Branding ที่มีพลัง ต้องเริ่มจาก Employee Value Proposition (EVP) ที่ชัดและจริง


เพราะแบรนด์ที่ยั่งยืนไม่ได้เกิดจากคำโฆษณา แต่เกิดจาก “ประสบการณ์จริงของคนใน”
เมื่อ EVP เป็นรากฐานที่แข็งแรง Employer Branding จะเติบโต และ Employee Experience จะกลายเป็นพลังที่ทำให้องค์กร “น่าทำงานจริง” ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

อย่าปล่อยให้แบรนด์นายจ้างของคุณเป็นเพียงภาพสวยบนโซเชียล
เริ่มจากการ “ถอดรหัส EVP” ขององค์กรคุณวันนี้ กับ EVP Thai Platform
เพื่อค้นหาคุณค่าที่แท้จริงของคนในองค์กรคุณอย่างเป็นระบบ

Share this post

ปลดล็อกศักยภาพ EVP ขององค์กรคุณ ด้วย Insight และข่าวสารจากเรา

เพียงกรอกอีเมล แล้วรับข่าวสารสำคัญ — พร้อมคู่มือ EVP 12 มิติ ที่องค์กร
ชั้นนำทั่วโลกใช้สร้างวัฒนธรรมที่คนอยากอยู่ต่อ

Thank you! Your submission has been received!
Oops! Something went wrong while submitting the form.
Click Here to Read Terms and Conditions